วันนี้เราจะมาพูดถึงสุริยุปราคาที่เพิ่งเกิดขึ้นนะคะ
สุริยุปราคาบางส่วนในบ่ายวันที่ 15 ม.ค. เป็นสุริยคราสทิ้งทวน ก่อนจะพักไปอีก 2 ปี จึงจะกลับมาให้คนไทยเห็นอีกครั้งบนแผ่นดินขวานทอง แต่เนื่องจากเป็นสุริยุปราคาบางส่วน ดังนั้นตลอดปรากฏการณ์จึงไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า
สุริยุปราคาบางส่วนในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของจองสุริยุปราคาวงแหวนที่เห็นได้ในจีนและพม่า โดยในเมืองไทยจะเกิดระหว่าง 14.00-17.00 น. ซึ่งจังหวัดภาคเหนือจะเห็นการบดบังในสัดส่วนมากกว่าจังหวัดในภาคใต้ เช่น จ.แม่ฮ่องสอนเห็นการบดบังมากถึง 77% ส่วนกรุงเทพฯ เห็นการบดบังได้ 57.3% ขณะที่ภาคใต้เห็นการบดบังน้อยสุด จ.นราธิวาสเห็นการบดบังเพียง 36%
สุริยุปราคาวงแหวนเป็นสิ่งปกติของสุริยุปราคาที่เกิดในเดือน ม.ค. เนื่องจากเป็นเดือนที่ดวงอาทิตย์อยู่ใกล้โลกมากที่สุด ดังนั้นจึงเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงได้ยาก ครั้งนี้ไทยอยู่ใกล้แนวคราสวงแหวน จึงเห็นสุริยุปราคาบางส่วน ซึ่งแต่ละภาคจะเห็นการบดบังไม่เท่ากัน แต่ตลอดปรากฏการณ์สุริยุปราคาวงแหวนและสุริยุปราคาบางส่วน ไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า
สำหรับวิธีดูดวงอาทิตย์ขณะเกิดสุริยุปราคาอย่างปลอดภัยนั้น ควรใช้อุปกรณ์ช่วย ซึ่งสามารถสังเกตปรากฏการณ์ได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนี้ อุปกรณ์ที่ใช้สังเกตทางตรง ได้แก่ กล้องโทรทรรศน์ที่ติดแผ่นกรองแสงสำหรับดูดวงอาทิตย์ แว่นดูดวงอาทิตย์ หรือแผ่นกรองแสงชนิดพิเศษ (Mylar Filter, Black Polymer) แผ่นดีวีดี ที่ไม่มีลวดลาย กระจกช่างเชื่อมเบอร์ 14 แต่ถึงแม้จะมีอุปกรณ์ช่วยสังเกตอย่างปลอดภัยแล้ว ก็ไม่ควรมองดวงอาทิตย์นานเกินครั้งละ 5 วินาที ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้สังเกตทางอ้อม ได้แก่ การฉายภาพดวงอาทิตย์บนฉากรับภาพจากกล้องโทรทรรศน์ การดูผ่านกล้องรูเข็ม การสังเกตเงาใต้ร่มไม้
หลังปรากฏการณ์สุริยุปราคาในที่ 15 ม.ค.53 นี้ คนไทยต้องรออีก 2 ปีจึงจะเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาอีกครั้งในประเทศไทย คือปรากฏการณ์สุริยุปราคาบางส่วนวันที่ 20 พ.ค.2555 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสุริยุปราคาวงแหวนที่คราสพาดผ่านญี่ปุ่น และในวันที่ 8 มี.ค.59 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวงที่คราสพาดผ่านเกาะบอร์เนียวและเกาะสุมาตรา และไทยจะเห็นปรากฏการณ์สุริยุปราคาวงแหวนในส่วนของภาคใต้วันที่ 21 พ.ค.74 ส่วนสุริยุปราคาเต็มดวงในเมืองไทยจะเกิดขึ้นในวันที่ 11 เม.ย.2613
สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่พลาดหรือไม่ได้ดูสุริยุปราคาลองเข้ามาชมภาพ “สุริยุปราคาบางส่วน” ที่คนไทยได้ยล ได้ที่เวปไซด์
http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9530000006198
ที่มา http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9530000005526
วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)